ฟักข้าว ผักรวย “ไลโคพีน”กินลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อไม่นานมานี้มีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับผักเวียดนามชนิดหนึ่งชื่อ
“แกก (Gac)”
ในการมีสรรพคุณต้านมะเร็งอย่างแพร่หลาย ผักที่ว่านี้คือฟักข้าว
ฟักข้าวมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน พม่า ไทย ลาว
บังกลาเทศ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
แต่คนเวียดนามดูเหมือนจะนิยมกินฟักข้าวมากกว่าชนชาติอื่นๆ
โดยมักปลูกฟักข้าวพาดพ้นไม้ระแนงข้างบ้าน และเก็บเฉพาะผลสุกมาประกอบอาหาร
โดยจะเอาเยื่อสีแดงจากผลฟักข้าวสุกพร้อมเมล็ดมาหุงกับข้าวเหนียวทำให้ข้าวมีสีแดง
ใช้ในเทศกาลปีใหม่และงานมงคลสมรสเท่านั้นเพราะเชื่อว่าสีขาวไม่เป็นมงคล
ปัจจุบันพบว่าเยื่อหุ้มเมล็ดของฟักข้าวสีแดงนั้นมีสารชื่อ “ไลโคพีน”
โดยจะมีสารไลโคพีนสูงสุดในบรรดาผักผลไม้ที่ให้ไลโคพีนทั้งหลาย
ดังนี้
- มะเขือเทศสุก 31
ไมโครกรัมต่อกรัม
- แตงโม 41
ไมโครกรัมต่อกรัม
- ฝรั่ง 54
ไมโครกรัมต่อกรัม
- ส้มโอ 33.6 ไมโครกรัมต่อกรัม
- เยื่อเมล็ดฟักข้าว
380
ไมโครกรัมต่อกรัม เป็นต้น
ไลโคพีน เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบได้ในผักและผลไม้บางชนิด มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น เมื่อร่างกายของเราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้
วงการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่ามีผลลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร
และที่สำคัญพบว่าไลโคพีนมักจะไปสะสมบริเวณต่อมลูกหมากและผิวหนัง
อย่างไรก็ตามการต้านอนุมูลอิสระนั้นต้องทำงานกันเป็นทีม
ดังนั้นควรจะรับประทานอาหารให้หลากหลาย
ที่สำคัญคือรายงานการศึกษาสมัยใหม่มีความขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลาว่าปริมาณสารไลโคพีนมีประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากจริงหรือไม่
แต่เมื่อไม่นานนี้พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับสารไลโคพีนมีปริมาณของสารที่เป็นตัวชี้วัดสุขภาพของต่อมลูกหมาก
prostate-specific antigen (PSA) ลดลง ซึ่งหมายถึงสุขภาพของต่อมลูกหมากดีขึ้น ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นการรับประทานผักที่มีสารไลโคพีนสูงจึงมีประโยชน์ต่อผู้ชายซึ่งมักจะมีปัญหาของต่อมลูกหมากเมื่อสูงวัยขึ้น
ปัจจุบันมีรายงานการศึกษาวิจัยของฟักข้าวต่อการรักษาและป้องกันมะเร็งในประเทศต่างๆ
เช่นจีน
พบว่าโปรตีนจากเมล็ดฟักข้าวมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ตับในหลอดทดลอง
ประเทศเวียดนามพบว่าน้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ
ประเทศไทยพบโปรตีนในเมล็ดฟักข้าวมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อเอชไอวี-เอดส์
และยับยั้งเซลล์มะเร็งโดยจดสิทธิบัตรในประเทศไทยแล้ว
งานวิจัยอื่นในต่างประเทศพบว่า
เมล็ดแก่ของฟักข้าวมีโปรตีนมอร์มอโคลซิน-เอส และโคลซินิน-บี
มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของไรโบโซมซึ่งเป็นแหล่งผลิตกรดอะมิโน
และต้านการเจริญของเซลล์มะเร็งหลายชนิดในหลอดทดลอง
ซึ่งอาจนำไปใช้พัฒนาเภสัชภัณฑ์ต้านมะเร็งได้ในวันข้างหน้า
ประเทศญี่ปุ่นทำการวิจัยพบว่า
โปรตีนจากสารสกัดน้ำของผลฟักข้าวยับยั้งการเจริญของก้อนมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูทดลอง
และน้ำสกัดผลฟักข้าวยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งตับและมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยทำให้เซลล์แตกตาย
จากการศึกษาที่ผ่านมาจะเห็นว่าในส่วนที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งนั้นมาจากสารโปรตีนในเมล็ดแก่
น้ำมันจากเยื่อหุ้มเมล็ด น้ำสกัดจากผล
แต่ในส่วนของเนื้อในเมล็ดนั้น
เนื่องจากไม่มีการรับประทานกันทั่วไปอย่างกว้างขวาง
จึงควรที่จะต้องศึกษาหาความปลอดภัยก่อนที่จะนำมาใช้กิน
ส่วนเยื่อหุ้มเมล็ดนั้นมีการทำเป็นเครื่องดื่มออกจำหน่ายกันบ้างแล้วในต่างประเทศ
สำหรับท่านที่ปลูกฟักข้าวไว้ ก็อาจจะรวบรวมสารเยื่อหุ้มเมล็ดตากเก็บไว้ชงน้ำกินเป็นเครื่องดื่มบำรุงสายตา
บำรุงสุขภาพก็ได้
ในส่วนที่เป็นผลนั้นชาวบ้านกินกันโดยทั่วไปอยู่แล้ว
ดังนั้นการปลูกการกินฟักข้าวมีแต่ประโยชน์กับประโยชน์
ฟักข้าวเป็นผักพื้นบ้านที่คนปัจจุบันหันกลับมาให้ความสำคัญกันมากด้วยกลัวการเป็นมะเร็ง
นับเป็นปัญหาสุขภาพที่คร่าชีวิตคนไทยไปปีละไม่น้อยกว่า 60,000 คน
นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้คนไทยได้หันกลับมาศึกษาภูมิปัญญาของปู่ย่าตายาย
เพื่อนำมาปรับใช้กับสังคมสมัยใหม่อย่างรู้เท่าทันและเข้าใจ
วิธีรับประทาน รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล
วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร และ ก่อนนอน 1 ชั่วโมง
ปริมาณใน 1
แคปซูล : 1 แคปซูล ปริมาณ 500 มก. (มีส่วนผสมจาก ฟักข้าว 100%)
ส่วนผสมสำคัญ
คือ ผงฟักข้าว(Gac powder)100% จากประเทศเวียดนาม 500 มก./1 แคปซูล
ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่แต่งกลิ่น
ไม่เจือสีสังเคราะห์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://gaccapsulenutavia.blogspot.com
ฟักข้าว แคปซูล ชื่อ NUTAVIA
CAPSULE
ปริมาณและราคา 1 ขวด มี 60
แคปซูล ราคา 790 บาท
ส่งไปรษณีย์ EMS
ฟรี
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
คุณ วีระชัย ทองสา
โทร. 089-7849422 , 080-4248112
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com